สิ่งสำคัญที่ห้ามพลาดในการก่อสร้าง

skyrodema.com

สิ่งที่ห้ามผิดพลาดในการก่อสร้างที่ควรจะรู้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามาในภายหลังจากที่ได้ทำการก่อสร้างไปแล้ว เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่จะสร้างบ้าน หรือ ผู้ที่รับเหมาก่อสร้าง ควรทราบนั้นประกอบไปด้วย

  • มีการวางผังและกำหนดจุดในการลงเข็มโครงสร้าง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะเป็นระยะต่างๆรอบบ้านและเป็นประโยชน์ในการใช้สอยตามที่เจ้าของบ้านได้กำหนดไว้ หากวางผังผิดพลาดก็จะทำให้เกิดการเสียงบประมาณในการปรับปรุงแก้ไขมากมาย
  • ต้องสร้างตามแบบ โดยเจ้าของบ้านและสถาปนิกควรควบคุมการก่อสร้างให้ตรงตามแบบที่คิดไว้อาจกำชับช่างว่า หากก่อสร้างมาถึงตรงนี้ ให้แจ้งเจ้าของหรือสถาปนิกเพื่อเข้ามาดูหน้างานอีกครั้งเพื่อความถูกต้องตามแบบ อีกทั้งควรยึดตามรายละเอียดนั้น ก่อนมีการสั่งซื้อจริงทั้งหมด
  • ปูนที่จะใช้ในการก่อสร้าง ต้องเป็นปูน Portland ผสมทราย หินและน้ำที่สะอาด โดยปูนที่ใช้ต้องเป็นปูนสำหรับงานโครงสร้างเท่านั้น
  • เหล็กที่ใช้เป็นโครงสร้างต้องไม่เป็นสนิม เพราะสนิมจะลดประสิทธิภาพการทำงานของเหล็กและยังทำให้คอนกรีตแตกร้าวเสียหายได้ด้วย
  • ระยะหุ้มของคอนกรีตและเหล็ก ในขั้นตอนของการผูกเหล็กเสริมและจะทำการเทคอนกรีต จะต้องดูว่าระยะระหว่างเหล็กเสริมแบบนั้นมีระยะเท่าไร
  • เสาและคานต้องได้แนวไม่บิดเบี้ยว เอียงเพราะนั่นหมายถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
  • มีเสาเอ็นและทับหลังเป็นส่วนประกอบโดยเฉพาะรอบวงกบประตู หน้าต่าง เพราะช่องประตูและหน้าต่างเหมือนผนังที่ถูกเจาะ และมีแรงสั่นสะเทือนจากการเปิดปิดประตูหน้าต่างทั้งนี้เสาเอ็นและทับหลังจะช่วยในการเสริมความแข็งแรงได้
  • ต้องแยกสีของสายไฟ เพราะหากไม่แยกสีที่ต้นสายและปลายสายไว้แต่ต้นการแก้ปัญหาก็จะทำได้ยากซึ่งจะทำให้ต้องรื้อระบบสายไฟใหม่ในการซ่อมแซมซึ่งเป็นเรื่องยากเลยทีเดียว
  • ท่อน้ำดี PVC ควรมีเกลียว และแยกสี เพราะท่อน้ำดีเป็นแบบเกลียว จะช่วยให้ข้อต่อมีความแข็งแรงกว่าแบบธรรมดาและในส่วนของสีของท่อก็ควรมีการแยกเพื่อความสะดวกในการซ่อมแซม

ฉะนั้นการที่จะสร้างบ้านหรือรับเหมาก่อสร้างควรมีการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างให้ละเอียดก่อนที่จะทำการสร้าง เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและการสูญเสียทรัพย์สินที่จะเกิดขึ้น หากผู้ที่สร้างไม่มีความรู้ในด้านนี้

ขั้นตอนและความสำคัญขอการก่อสร้างอาคารและบ้านเรือนให้แข็งแรง

6

งานก่อสร้างตัวบ้านเป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่องจากงานด้านโครงสร้าง งานหลักในส่วนนี้ได้แก่การ ก่อผนังและการติดตั้ง วงกบประตู หน้าต่าง ซึ่งจะต้องทำ ควบคู่กันไป เนื่องจากวงกบประตูหน้าต่าง และผนัง บ้านเป็นสิ่งที่ติดตั้ง เชื่อมต่อเข้า ด้วยกัน ซึ่งการทำผนังบ้าน ในขั้นตอนนี้ จะเป็นเพียงการก่ออิฐ ให้เป็นรูปเป็น ร่องก่อนเพื่อการติดตั้งวงกบ หลังจากทำการติดตั้ง วงกบเรียบร้อยแล้ว จึงทำการฉาบแต่งผนังไปพร้อม ๆ กับ การฉาบแต่งเสา และคาน ส่วนการติดตั้ง บานประต ูหน้าต่างอาจทำ การติดตั้งต่อเนื่องไปเลย หรืออาจจะค่อย ๆ ทยอยติดตั้ง หรืออาจ จะรอไปทำ ในช่วงหลังเลยก็ได้ หากเกรงว่า จะก่อเกิดความไม่สะดวกในการลำเลียงวัสดุ หรือก่อให้เกิดปัญหาในการดูแลรักษา

ในกรณีของบ้านที่มีการเดินท่อน้ำ และสายไฟเป็นระบบฝัง การเดินท่อน้ำและท่อร้อยสายไฟในส่วน ที่จะต้องฝังอยู่ภายในผนัง ก็จะต้องทำในช่วงนี้ การวางท่อต่างๆ จะเริ่มทำหลังจาก ที่ก่อผนังด้วยอิฐแล้ว โดย จะทำ การเจียนผนังอิฐ ให้เป็นร่องลึกลงไป เป็นแนวตาม ที่กำหนด เพื่อจะได้วางท่อ ให้ฝังลงไป ในผนังได้ก่อนที่ จะทำ การฉาบแต่งผนัง ฉะนั้นจุดที่ควรระวังในขั้นตอนนี้ก็คือ ก่อนการฉาบแต่งผนังจะต้องแน่ใจว่าการวาง ท่อต่าง ๆ ทำไว้อย่างถูกต้อง เรียบร้อย การวางตำแหน่งของสวิตซ์ไฟ ปลั๊กไฟ ก๊อกน้ำ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สัมพันธ์กับ การเดินท่อ ภายในผนังเป็นไปตามที่กำหนดและสอดคล้องกับแนวท่อที่เดินไว้ หากจะ มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ก็ต้องรีบทำในขั้นตอนนี้ ก่อนที่จะทำ การฉาบแต่งผนัง

ในขั้นตอนการปลูก สร้างบ้าน เช่น การติดตั้งลูกกรง เหล็กดัด การติดตั้งผ้าม่าน การจัดสวน ฯลฯ ซึ่งจะไม่กล่าวถึงในที่นี้ จากตัวอย่าง ที่ยกมาตั้งแต่ต้น จะสังเกตเห็นว่า งานบางขั้นตอนที่ไม่เกี่ยวข้องกันนั้น การจัดลำดับขั้น ตอนและจังหวะเวลา ในการทำงาน อาจสามารถยึดหยุ่นได้ โดยไม่ส่งผลเสียหาย แต่ประการใด ในขณะที่งาน บางขั้นตอน ที่มีความสัมพันธ์กัน จะต้องมีการ จัดลำดับขั้นตอนและจังหวะเวลาในการทำให้เหมาะสม รวมทั้งการวางแผน การเตรียมการ และการประสานงานต่าง ๆ จะต้องกระทำ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ผลงาน ที่ออกมามี ความถูกต้องเป็นไปตามที่ต้องการ เพราะ ความผิดพลาดบกพร่อง ในขั้นตอนหนึ่ง ขั้นตอนใดก็ตาม โดยเฉพาะขั้นตอนต้น ๆ ย่อมส่งผลเสียหายไปถึงขั้นตอนถัดไปด้วย ยิ่งถ้าปล่อยให้ผิดพลาด ล่วงเลยไป การแก้ไขในภายหลังก็ยิ่งกระทำได้ลำบากยิ่งขึ้น จึงควรระมัดระวังในจุดนี้ด้วย

ทิศทางรับเหมาก่อสร้าง 2557 แนวโน้มตลาดที่สูงขึ้น

แม้ว่าสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาคึกคักอีกครั้งส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แต่สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างแล้วยังไม่สดใสเท่าที่ควร เพราะนอกจากจะต้องหาวิธีรับมือการปรับค่าแรง 300 ทั่วประเทศในวันปีใหม่นี้แล้ว ยังต้องเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มว่าตลาดรับ เหมาก่อสร้างจะยิ่งมีการแข่งขันสูงมากขึ้น ทั้งจากผู้รับเหมารายใหญ่และผู้รับเหมารายย่อยทั่วประเทศ

การขยายตัวของโครงการคมนาคมและการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ในปัจจุบันอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยมีการพัฒนาขีดความสามารถในด้านงาน รับเหมาก่อสร้างมากขึ้น โดยเฉพาะผู้รับเหมารายใหญ่ที่แทบจะกลืนกินผู้รับเหมารายย่อยจากความได้ เปรียบทางด้านชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ สภาพคล่องและอัตราการต่อรองที่มีมากกว่า ทำให้ผู้รับเหมารายย่อยถูกจำกัดตลาดให้แคบลง โดยในช่วงครึ่งปีแรกจากจำนวนงานก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมด มีผู้รับเหมารายใหญ่ที่ได้งานไปมากกว่า 50%

“สถานการณ์อุตสาหกรรมก่อสร้างมีแนวโน้มว่าจะกระเตื้องขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้เป็นต้นไป ทั้งในส่วนงานรับเหมาช่วงและงานรับเหมาฐานราก ซึ่งแม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะซบเซาจากการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างที่อยู่ อาศัยที่ยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตน้ำท่วม ทำให้ปริมาณงานสะสมของผู้รับเหมาลดน้อยลงในขณะที่งานใหม่ก็ยังคงชะลอตัว แต่เราคาดว่าปริมาณงานจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอย่างสมบูรณ์ในไตรมาสแรกของปี 2556 นี้ และเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2556 เป็นต้นไป หลังจากที่ผู้รับเหมาปรับตัวกับปัญหาค่าแรงได้แล้ว

ทั้งนี้ โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ทยอยเปิดตัวโครงการใหม่ๆมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ประกอบการอสังหาฯในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้งานก่อสร้างตกเป็นของผู้รับเหมารายใหญ่แทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่งานรับเหมาฐานราก ทำให้การแข่งในตลาดมีอัตราที่สูงขึ้นจากการแย่งงานกัน และเกิดการตัดราคากันอย่างรุนแรงระหว่างผู้รับเหมาด้วยกันเอง จนส่งผลต่ออัตราความเสี่ยงที่ผู้รับเหมาต้องแบกรับภาระเอาไว้เอง และเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาทิ้งงานและปัญหาด้านคุณภาพมาตรฐานงานก่อสร้าง ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ไม่เพียงแต่ผู้รับเหมารายย่อยเท่านั้นที่ต้องมีการปรับตัวให้เข้า กับสถานการณ์เพื่อความอยู่รอดในตลาดอสังหาฯและอุตสาหกรรมก่อสร้าง แต่ในอนาคตหากมีการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน(AEC) จะเป็นโอกาสของผู้รับเหมาจากต่างประเทศที่จะเข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมก่อสร้างบ้านเราด้วย

ดังนั้นผู้รับเหมาไทยไม่ว่ารายเล็กหรือรายใหญ่ต่างก็ต้องเร่งปรับตัว เพื่อเตรียมพร้อมที่จะแข่งขันในตลาดสากลมากขึ้น …เพราะในอนาคตตลาดที่รออยู่ไม่ใช่เพียงแค่ AEC เท่านั้น แต่จะเป็นตลาด Global ที่เปิดกว้างรอ…สำหรับผู้ที่เตรียมพร้อมและพัฒนาอยู่เสมอ!