วิธีการเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้างให้ได้คุณภาพ

การเลือกบริษัทในการก่อสร้างอาคารหรือบ้านนั้น ต้องคำนึงถึงคุณภาพ เพื่อให้ได้บ้านที่มีคุณภาพ โดยการว่าจ้างในการก่อสร้างมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกเจ้าของช่างจะมองหาช่างที่รู้จัก และจ้างเฉพาะค่าแรง ส่วนวัสดุในการก่อสร้างผู้ว่าจ้างเป็นคนซื้อด้วยตนเอง การว่าจ้างโดยวิธีนี้เจ้าของบ้านคิดว่าจะสามารถควบคุมค่าจ้างได้ในราคาค่อนข้างถูก คุมค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างดี เพราะสามารถเลือกหาซื้อวัสดุในราคาที่ตนมีกำลังซื้อ วิธีการว่าจ้างอีกอย่างหนึ่งก็คือ ให้ช่างเป็นผู้รับเหมาทั้งค่าแรงและค่าวัสดุ วิธีนี้อาจจะจ้างได้ในราคาต่ำที่เจ้าของบ้านพอใจ แต่จะมีปัญหาตามมาเช่นกัน เช่น ไม่สามารถควบคุมมาตรฐานของการก่อสร้างได้ เพราะช่างแต่ละคนมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน และอาจจะไม่ได้แสดงรายการวัสดุให้เจ้าของบ้านเห็นล่วงหน้า และที่สำคัญคืองบประมาณมีโอกาสบานปลายได้เพระไม่มีการวางแผนที่ดีดังกล่าว บริการอีกอย่างหนึ่งที่ลูกค้าจะได้รับ เมื่อสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก็คือ การรับประกันผลงาน หากเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานสูงและมีความเป็นมืออาชีพ จะมีเงื่อนไขและระยะเวลาของการรับประกันผลงานที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์มาก เช่น มีระยะเวลาการรับประกันผลงานนานถึง 15 ปี ในปัจจุบันมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างเกิดขึ้นมากมาย ผู้บริโภคจึงต้องเลือกบริษัทที่เป็นมาตรฐานเพื่อให้คุ้มค่ากลับเงินที่สูญเสียไป การเลือกบริษัทก่อสร้างให้ได้คณภาพ มีดังนี้

1.บริษัทต้องมีทีมงานมืออาชีพ โดยบริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานจะต้องมีสถาปนิกและวิศวกรประจำบริษัท เพราะจะทำให้สามารถออกแบบ ควบคุมการก่อสร้าง และให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าได้ตั้งแต่ก่อนการก่อสร้าง จนกระทั่งการก่อสร้างแล้วเสร็จ

2. บริษัทต้องศึกษาและพัฒนาเทคโนโยลีในการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ บริษัทจึงต้องติดตามและนำเทคโนโยลีใหม่ๆ มาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าและสังคมโดยรวม เช่น นำเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ประหยัดพลังงานมาใช้

3. บริษัทควรมีแบบบ้านให้ลูกค้าเลือกได้หลากหลาย เพื่อที่จะสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไม่จำกัด

4. บริษัทควรสามารถเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้มากที่สุด เช่น การมีสาขาของบริษัทที่อยู่ใกล้กับสถานที่ก่อสร้างเพื่อให้สามารถตรวจสอบควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของการก่อสร้างได้อย่างใกล้ชิด

5. การบริการก่อนและหลังการขาย เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกบริษัทอีกอย่างหนึ่งคือ การบริการก่อนและหลังการขาย ลูกค้าสามารถตรวจสอบได้ว่าบริษัทใดให้บริการก่อนและหลังการขายได้คุ้มค่ากว่า