การผลิตสินค้าและบริการให้ตรงต่อความต้องการของตลาด

กลไกของระบบการผลิตเพื่อขาย คือ การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างตลาดกับผู้ผลิต หรือผู้ขายเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การทำงานในระบบนี้จะเริ่มต้นจากการพัฒนาระบบการตลาด คือ ใช้ตลาดเป็นตัวตั้ง ข้อมูลข่าวสารการตลาดจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการส่งสัญญาณความต้องการของตลาดที่มีต่อสินค้าและบริการไปยังผู้ผลิต ผู้ผลิตจะพยายามตอบสนองความต้องการทางด้านตลาดโดยการปรับระบบและวางแผนการผลิตให้สอดคล้องสัมพันธ์กัน

ดังนั้นรูปแบบซึ่งจะทำให้เกิดกลไกการทำงานในระบบนี้จะต้องมีองค์กรและระบบ ข่าวสารการตลาดที่ถูกต้อง แน่นอนชัดเจน หากมีหลักประกันและข้อผูกพันมากเท่าใด ก็จะมีผลทำให้ระบบการผลิตเพื่อขายมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นทางเลือกของรูปแบบที่เหมาะสมของสินค้าแต่ละประเภท ซึ่งอาจจะมีหลายรูปแบบจึงเป็นแนวทางที่จะต้องเร่งรัดสนับสนุนให้มีการขยายผลให้กว้างขวางยิ่งขึ้น รูปแบบการดำเนินงานตามระบบการผลิตเพื่อขายนั้น สำหรับสินค้าการเกษตรประกอบด้วย

– รูปแบบที่มีแนวทางการพัฒนาระบบการผลิตเพื่อขายอย่างมีขั้นตอน มีระบบและมีองค์กรดำเนินงานในเชิงธุรกิจ กล่าวคือ มีเอกชนดำเนินการในระดับท้องถิ่นทำหน้าที่เชื่อมโยงการผลิตกับการตลาด โดยทำหน้าที่เป็นผู้รับคำสั่งซื้อและประสานกับ ผู้ผลิตโดยการวางแผนการผลิตและสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกในปริมาณและคุณภาพที่ตลาดต้องการทำการรับซื้อโดยมีสัญญาข้อตกลง การผลิตเพื่อขายในลักษณะเช่นนี้เป็นรูปแบบที่น่าจะมีความเหมาะสมมากที่สุดรูปแบบหนึ่งสำหรับการผลิตสินค้าใหม่ เพื่อการขายทั้งภายในประเทศและการส่งออก

– ผู้ผลิตสามารถติดต่อกับผู้ซื้อได้ด้วยตนเอง และสามารถนำความรู้และข้อมูลด้านการตลาดมาปรับระบบการผลิตเพื่อขายด้วยตนเองได้โดยตรง รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ดีอีกรูปแบบหนึ่ง หากสามารถขยายผลให้เกิดขึ้นได้กว้างขวางยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งองค์กรให้การสนับสนุนและดำเนินการโดยบริษัทเอกชน เช่น กรณีที่บริษัทในประเทศหรือต่างประเทศเข้ามาดำเนินการให้เกิดการผลิตขึ้น โดยมีตลาดรับซื้อที่แน่นอน ผู้สนับสนุนการผลิตจะเป็นผู้นำเข้าเมล็ดพันธุ์ เทคโนโลยีและความรู้ทางวิทยาการ รวมทั้งเป็นผู้ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานให้ถูกต้องแน่นอน รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ดีควรแก่การสนับสนุน อย่างไรก็ดีการขยายจำนวนของบริษัทที่ดำเนินงานในลักษณะเช่นนี้คงจะเป็นข้อจำกัดสำคัญ เนื่องจากจะต้องมีการลงทุนสูง และบริษัทดังกล่าวจะต้องมีการทำงานในพื้นที่เป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่องจึงจะสามารถเกิดผลสำเร็จได้อย่างเต็มที่

– ผู้ซื้อมักจะแจ้งความต้องการที่จะรับซื้อผลผลิตและขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก โดยไม่มีข้อผูกพันว่าจะรับซื้อที่ใด อย่างไร คุณภาพใด ราคาเท่าใด และปริมาณมากน้อยเพียงใด รูปแบบการผลิตเพื่อขายลักษณะนี้ได้ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากในอดีต ซึ่งอาจมีผลเสียหายได้มาก หากมีการสนับสนุนให้เกิดขึ้นต่อไป เกิดขึ้นจากผู้ผลิตพันธุ์เพื่อขาย หรือพ่อค้าเมล็ดพันธุ์สนับสนุนให้เกิดการผลิต ซึ่งผลผลิตจะขายหรือใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่าหรือไม่นั้น ในบางกรณีจะต้องใช้เวลายาวนาน รูปแบบนี้การสนับสนุนจะต้องทำด้วยความระมัดระวังมาก เพราะเกษตรกรมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอาจมีปัญหาด้านการขาดตลาดรองรับที่แน่นอน

– อุตสาหกรรมการเกษตร มีลักษณะเป็นตลาดข้อตกลงระหว่างผู้ผลิตกับโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร เช่น กรณีของน้ำตาล สับปะรดกระป๋อง รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่มีประโยชน์และควรที่จะสนับสนุนให้ขยายผลต่อไป หากได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขสาระสำคัญของข้อตกลง ให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายมากขึ้น